นโยบาย ปี ค.ศ.2015 –ปี ค.ศ.2018
1) คริสตจักรภาคที่ 6 เป็นผู้ประสานงาน, สนับสนุน, ส่งเสริมในพันธกิจของคริสตจักรต่างๆ ในภาคที่ 6 และงานพันธกิจของคริสตจักรต่างๆ นอกภาคที่ 6
2) คริสตจักรภาคที่ 6 เน้นความสำคัญด้านการพัฒนาบุคลากร และการฝึกอบรม การพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ ในการดำเนินงานนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เป็นหลักพื้นฐานที่ช่วยผลักดันให้คริสตจักรเจริญเติบโต และเข้มแข็ง ดังนั้นการพัฒนาบุคลากรจึงมีบทบาทหน้าที่สำคัญ ที่ผู้นำในคริสตจักรได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการทำงาน และความเข้าใจในพระวจนะและศาสนศาสตร์ ที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา
3) คริสตจักรภาคที่ 6 เน้นความสำคัญด้านการขยายคริสตจักร สร้างความเข้าใจ ฝึกอบรมพัฒนาแนวทางการศึกษาดูงาน การขยายคริสตจักร เพื่อนำมาใช้ในการทำงานให้เหมาะสมกับคริสตจักร และบริบทของจุดประกาศหรือศาลาธรรม หรือคริสตจักรนั้นๆ ซึ่งในการขยายคริสตจักรนี้ รวมไปถึงการดูแล ติดตามผล, เลี้ยงดูสมาชิก ผู้เชื่อใหม่ในคริสตจักร
4) คริสตจักรภาคที่ 6 มีความตั้งใจมุ่งมั่นในการดูแลด้านสวัสดิการของผู้รับใช้พระเจ้าภายในภาคที่ 6 เท่าที่ทำได้ เพื่อให้ผู้รับใช้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ และทำงานได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวล
-----------------------------------------------------------------
นโยบาย ปี ค.ศ.2011 –ปี ค.ศ.2014
การพัฒนาบุคลากร และการฝึกอบรม (Training)
คริสต จักรภาค 6 ตระหนักดีถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพในการดำเนินงานดีที่ สุด เพราะงานต่างๆ จะสำเร็จได้ด้วยดีนั้น บุคลากรจะมีบทบาทมากที่สุดและสำคัญที่สุด เป็นการพัฒนาผู้นำภายในคริสตจักร ให้มีความรู้ ความเข้าใจ ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน ให้เกิดความชำนาญในด้านต่างๆ การประกาศ ส่งเสริม สนับสนุน ให้ทุกคริสตจักรในสังกัดภาค 6 มีคริสตจักรลูก เน้นการประกาศในชุมชนมากขึ้น ตลอดจน การจัด Mission Trip ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การจัดอบรมพัฒนาผู้นำและบุคลากร ตลอดจนสมาชิก ในสังกัดคริสตจักรภาค 6 สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้รับใช้พระเจ้าและผู้นำคริสตจักร เข้าร่วมประชุม และอบรมสัมมนา ในที่ต่างๆ
กิจกรรมที่ต้องปรับปรุง แก้ไข และเรียนรู้
1) คริสตจักรต้องมีบทบาททำพันธกิจสู่ชุมชนมากขึ้น เพื่อโอกาสในการประกาศ เช่น การช่วยเหลือในกรณีเกิดภัยพิบัติ
2) การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนในโครงการต่างๆ เพื่อเป็นสะพานเชื่อมสายสัมพันธ์กับคนในชุมชนต่างๆ ที่มีเป้าหมาย
การทำพันธกิจในอนาคต
1) การประกาศข่าวประเสริฐของคริสตจักรในสภาคริสตจักร ในประเทศไทย นั้น มีจุดอ่อนเรื่องการติดตามเลี้ยงดู ทำให้ผลจากการประกาศข่าวประเสริฐ จึงเกิดผลน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เราคงต้องหันมาดูการติดตามเลี้ยงดูผู้เชื่อใหม่ จัดให้เป็นระบบและทำบทเรียนในการเลี้ยงดู ที่สำคัญคือการสร้างสมาชิกให้มีส่วนร่วมในการเลี้ยงดู
2) จัดกลุ่มเซลล์หรือกลุ่มพี่เลี้ยงที่จะติดตามเลี้ยงดู เพราะผู้เชื่อใหม่ต้องการเอาใจใส่ เลี้ยงดูอย่างจริงจังที่เข้าใจและช่วยในการเลี้ยงดูฝ่ายจิตวิญญาณที่เขาจะ เติบโตในพระคริสต์ เป็นคนที่พร้อมจะถูกสร้างต่อไป
3) พี่เลี้ยงต้องได้รับการเสริมสร้างและหนุนใจอย่างมาก ทั้งด้านบทเรียน ทั้งด้านการติดตามดูแล และอดทนต่อปัญหาต่างๆซึ่งไม่ง่ายนักในการเสริมสร้างคนที่จะเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งต้องมีทีมงานที่จะช่วยเขาเหล่านี้
---------------------------------------------------------------------